ใครเป็นเจ้าของ ตู้เต่าบิน ? | THE BRIEFCASE

ใครเป็นเจ้าของ ตู้เต่าบิน ? | THE BRIEFCASE

ช่วงที่ผ่านมา หลายคนโดยเฉพาะคนในกรุงเทพฯ น่าจะเคยเห็นหรือเคยได้ลองใช้ “ตู้เต่าบิน”
โดยเจ้าตู้เต่าบินที่ว่านี้ เป็นตู้ขายเครื่องดื่มอัตโนมัติที่ให้กดเลือกเมนูร้อน-เย็น ได้กว่า 80 เมนู ในราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 15 บาท

แล้วเคยสงสัยกันไหมว่า “ใครเป็นเจ้าของ ตู้เต่าบิน ?”

คำตอบคือ เจ้าของตู้เต่าบิน เป็นคนเดียวกับเจ้าของ “ตู้บุญเติม” ตู้รับชำระเงินอเนกประสงค์อิเล็กทรอนิกส์ที่หลายคนคุ้นเคย นั่นเอง..

บริษัทที่ว่านี้ก็คือ บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ FSMART ซึ่งจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

สรุปธุรกิจของ FSMART คร่าว ๆ คือบริษัทมีรายได้หลักมาจากค่าธรรมเนียมการให้บริการตู้บุญเติม ที่มีอยู่มากกว่า 129,000 ตู้ ทั่วประเทศไทย

ส่วน ตู้เต่าบิน บริษัทบอกว่าเป็น “คาเฟอัตโนมัติ” และเคลมว่าพัฒนาและผลิตโดยคนไทย 100%
โดยมี บริษัท ฟอร์ท เวนดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทเป็นผู้ดูแลและบริหารจัดการ

ต้องบอกว่า ตู้เต่าบิน เพิ่งให้บริการได้แค่ราว 1 ปีเท่านั้น
และปัจจุบันมี ตู้เต่าบิน อยู่กว่า 200 ตู้
ซึ่งส่วนใหญ่ยังอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และตามหัวเมืองใหญ่ ๆ

แล้วจุดเด่นของ ตู้เต่าบิน คืออะไร ?

- เมนูที่หลากหลาย ราคาเข้าถึงง่าย

อย่างที่เล่าไปตอนต้นว่า ตู้เต่าบินมีเมนูให้เลือกหลากหลาย มากกว่า 80 เมนู ตั้งแต่น้ำอัดลม เมนูปั่น กาแฟ ไปจนถึงเครื่องดื่มชูกำลังผสมโซดา และเครื่องดื่มผสมกัญชง..

ทางบริษัทยังบอกว่า กำลังพัฒนาเมนูให้หลากหลายขึ้นอีกเป็นมากกว่า 100 เมนู เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม

นอกจากนั้น ลูกค้ายังสามารถ “Customize” หรือปรับแต่งเครื่องดื่มด้วยตัวเองได้ด้วย
เช่น เลือกระดับความหวานได้ เลือกเพิ่มช็อตกาแฟได้ตามความชอบ

ที่สำคัญคือ ราคาที่เข้าถึงได้ไม่ยาก เริ่มตั้งแต่ 15 บาท และมีราคาเฉลี่ยที่ราว ๆ 20-40 บาทต่อแก้ว ทำให้แข่งขันด้านราคากับเจ้าอื่น ๆ ได้ไม่ยาก

- ให้บริการ 24 ชั่วโมง เข้าถึงสะดวก

อีกไฮไลต์สำคัญของตู้เต่าบิน คือให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง เพราะเป็นตู้อัตโนมัติ มีกิมมิกสำคัญคือระบบผสมและชงเครื่องดื่มในตัว ไม่ต้องมีพนักงานมาคอยให้บริการ

ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา ตู้เต่าบิน มักจะถูกวางอยู่ตามคอนโดฯ ออฟฟิศ สำนักงาน ทำให้ลูกค้าในกลุ่มคนทำงานที่ชื่นชอบเครื่องดื่มชงสด สามารถเข้าถึงได้สะดวก

ที่สำคัญคือ มีช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย ทั้งชำระด้วยเงินสด, QR Code
รวมถึงยังสามารถเลือกไม่รับเงินทอนแล้วเก็บเป็นเครดิตไว้ใช้ครั้งต่อไปและสะสมแต้มได้ด้วยเบอร์มือถือ ซึ่งก็ถือเป็นวิธีกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำที่น่าสนใจ