ทันหุ้น – FORTH มองโควิด-19 คลี่คลายดันยอดเติมเงินกลับมา หนุนผลงานไตรมาส 4/2564 ฟื้น เร่งพัฒนาตู้บุญเติมเพิ่มบริการใหม่ๆ พร้อมเดินหน้า “ตู้เต่าบิน” เพิ่มอีก 500 ตู้ จากปัจจุบัน 350 ตู้ ตั้งเป้าขยายให้ครบ 20,000 ตู้ หวังสร้างยอดขาย 1 ล้านแก้วต่อวัน
นายชัชวิน พิพัฒน์โชติธรรม ผู้ช่วยประธานกรรมการบริหาร บริษัท ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ FORTH เปิดเผยว่า สำหรับผลประกอบการโดยรวมในช่วงไตรมาสที่ 3/2564 ถือว่าชะลอตัวลงเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่กระทบต่อหลายภาคส่วน โดยบริษัทก็หวังว่าในช่วงไตรมาสที่ 4/2564 สถานการณ์โควิด-19 คาดว่าจะเริ่มคลี่คลาย ก็จะทำให้ยอดเติมเงินน่าจะเริ่มกลับเข้ามาเป็นปกติ
ทั้งนี้บริษัทยังคงเดินหน้าตามแผนโดยเน้นการขยายคาเฟ่อัตโนมัติ ภายใต้แบรนด์ "เต่าบิน" ซึ่งคาดว่าจะเป็นแหล่งสร้างรายได้ใหม่ที่สำคัญในอนาคต บริษัทตั้งเป้าขยายจุดติดตั้งไปตามทำเลคุณภาพที่มีลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย เช่น ออฟฟิศ สำนักงาน คอนโดมิเนียม ชุมชนที่อยู่อาศัย โรงพยาบาล รวมทั้งมหาวิทยาลัยให้ได้
ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างพัฒนารสชาติเพิ่มเติมสูตรอยู่ตลอดเวลา ปัจจุบันบริษัทมีตู้ต่อบินทั้งหมดประมาณ 350 ตู้ และมียอดขายที่ประมาณ 15,000 แก้วต่อวัน โดยบริษัทมีเป้าหมายขายเครื่องดื่มให้ได้วันละ 1 ล้านแก้ว ซึ่งต้องดูการตั้งตู้เต่าบินให้ครบ 20,000 ตู้
สำหรับงบลงทุนการประกอบตู้นั้นมีราคาต่อตู้อยู่ที่ 300,000 บาท คาดว่าน่าจะใช้งบลงทุนรวมประมาณ 6,000 ล้านบาท และในช่วงไตรมาสที่ 4/2564 คาดว่าจะสามารถกลับมาผลิตตู้เต่าบินได้ตามปกติ จากที่ผ่านมาชะลอตัวลง เนื่องจากมีปัญหาในการประกอบตู้ ภายในสิ้นปี 2564 คาดว่าจะมีตู้เต่าบินเพิ่มเข้ามาอีกประมาณ 500 ตู้
*เดินหน้าธุรกิจเต็มสูบ
ด้านธุรกิจอีเอ็มเอสเป็นส่วนงานที่ทำการจัดหา ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งงานสั่งผลิตและอุปกรณ์ทั่วไป ปัจจุบันออเดอร์ยังคงทรงตัวเนื่องจาก ได้รับผลกระทบชิปขาดตลาดบ้างในช่วงเดือนตุลาคม 2564 ซึ่งในช่วงปลายปีน่าจะปรับตัวดีขึ้นตามปกติ เเละบริษัทได้รับสัญญาณคำสั่งซื้อสำหรับปี 2565 เข้ามาจากลูกค้าเดิมซึ่งคาดว่าในปี 2565 รายได้กลุ่มธุรกิจดังกล่าวน่าจะเติบโตได้เป็นอย่างดี
ส่วนธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรซ์ โซลูชั่นส์ เป็นส่วนงานที่รับงานโครงการ จัดหา จัดจ้างและวางระบบต่างๆ จากภาครัฐและภาคเอกชน ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) ที่รอรับรู้รายได้ 1,800 ล้านบาท ซึ่งในช่วงไตรมาสสุดท้าย เตรียมรับรู้รายได้จากงานงานรถโบกี้ปั้นจั่นกล (Bogie Locomotive Crane) ของการรถไฟแห่งประเทศไทย มูลค่า 798 ล้านบาท เเละงาน Electronic Monitoring (EM) อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัวของกรมคุมประพฤติ (กำไรข้อเท้า) คาดว่าในช่วงไตรมาสสุดท้ายจะสามารถรับรู้รายได้อีกราว 100 ล้านบาท เเละมองว่ายังเป็นธุรกิจที่มีโอกาสขยายตัวสูง เนื่องจากจำนวนผู้ต้องหาได้ประเทศไทยก็ยังมีอยู่มาก เเละธุรกิจดังกล่าวเป็นรูปแบบการเช่าต่อเนื่อง โดยบริษัทคาดว่าธุรกิจนี้จะเป็นตัวสร้างรายได้ประจำให้แก่กลุ่มของบริษัทในอนาคต
ขณะที่ธุรกิจสมาร์ท เซอร์วิส เป็นส่วนงานที่ให้บริการธุรกรรมการเงินออนไลน์ จำหน่ายสินค้าและบริการผ่านตู้อัตโนมัติ ปัจจุบันตู้บุญเติม มียอดการเติมเงินลดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่บริษัทก็พยายามเพิ่มเติมเซอร์วิสให้เเก่ตู้ ไม่ว่าจะเป็นการโอนเงินผ่านตู้ เป็นเคาน์เตอร์ชำระเงิน เพิ่มด้าน KYCและ ATM ซึ่งในปี 2565 รวมถึงในปี 2565 ส่วน คาเฟ่อัตโนมัติ “เต่าบิน” คาดว่าจะเริ่มสร้างรายได้กลับมาให้แก่บริษัท
ขอบคุณบทความจาก : https://thunhoon.com/article/248385